spiralthai

หลังจากที่นที สุทินเผือก(กรุง ศรีวิไล)ดาวร้ายเพิ่งออกลาย กับ จีรพันธ์ ลิ้มสกุลศิริรัตน์ ย้ายไปพรรคภูมิใจห้อย โดยอ้างว่าต้องการงบมาหาเสียงและพัฒนาพื้นที่อ.บางพลีและบางบ่อ อันเป็นฐานเสียงของตัวเอง ไม่สนใจกระแสทุ่มเงินซื้อตัวสส.และโสเภณีการเมือง

พรรคเพื่อไทยก็เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครหน้าใหม่นั้นก็คือ คุณเงาะ วรชัย เหมะ แกนนำเสื้อแดงปากน้ำที่เรารู้จักกันดี และ สลิลทิพย์ ชัยสดมภ์ อดีตสส.ปากน้ำ ของไทยรักไทยเดิมที่เคยย้ายสังกัดไปอยู่พรรคชาติไทย ร่วมกับ เรวดี รัศมิทัต และได้รับบทเรียนจากการย้ายออกจากพรรคโดยแพ้การเลือกตั้งครั้งนั้นไปในที่สุด คราวนี้เจ้าตัวน่าจะเข็ดหลาบแล้วได้ย้ายกลับมาสังกัดเดิมอย่างพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง หลังจากที่พรรคชาติไทยถูกยุบไป

spiralthai

ผมไม่รู้ว่าพรรคภูมิใจห้อยจะดูดสส.จากที่ไหนมาเข้าพรรคอีก แต่ถ้าเป็นสส.เหนือกับอีสานละก็เลือกตั้งครั้งที่แล้วนี่เป็นบทเรียนได้เลย

มีภาคกลางนี่แหละที่ไม่แน่เสมอไปเพราะตัวเดิมๆมักจะเข้าวินในภาคกลางกันมาทั้งหมดยกเว้นเขตปริมณฑล

spiralthai

โมเดลตั้งพรรคหรือกลุ่มใหม่เพื่อแยกกันตี หนีความใกล้ชิดกันระหว่างแบรนด์เสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทยผมเชื่อว่าอาจจะไม่ได้ผล

ถ้ากลุ่มของเจ๊หน่อย(ยกเว้นการุณ โหสกุลและพลพรรคสส.ส่วนหนึ่งที่หนุนเสื้อแดง)แยกออกไปนั้นจะกลายเป็นโอกาสของสิงห์เหลิมในการตั้งทีมงานหรือหน้าใหม่ๆในเครือข่ายของตัวเองสู้ศึกเลือกตั้งในกทม.โดยใช้Brandของพรรคเพื่อไทยซึ่งขายได้แน่นอนในภาคเหนือและอีสานโดยที่ไม่มีใครในภาคกทม.สามารถเข้ามาทัดทานขัดขวางได้เลย

เพราะผมเชื่อว่าคนที่เลือกพรรคสีขี้ก็เป็นพวกสีขี้กู่ไม่กลับ ส่วนคนที่เลือกกะจั๊วก้เป็นพวกสลิ่มคนเสื้ิอแพงที่มีพฤติกรรมเห็นแก่ตัว ไม่ได้นำพาต่อเหตุการณ์บ้านเมืองปล่อยให้สื่อกระแสหลักเน่าๆมันชักจูงให้ไปทางโน้นทางนี้ทีโดยอิงกับค่านิยมที่อิงแอบเจ้าเป็นหลัก ซึ่งถ้าตรงนี้มันเยอะมากอยู่แล้วผมว่าก็เป็นสิ่งที่ช่วยไม่ได้

spiralthai

ถ้ามีการตั้งกลุ่มหรือพรรคใหม่เพื่อแยกกันตีจริงๆ จะมีคนเลือกให้หรือเปล่าก้ยังรับประกันไม่ได้เพราะคนกทม.ที่ผ่านมาเลือกสส.โดยอิงกับพรรคที่สังกัดมากกว่าความโดดเด่นของตัวผู้สมัครเอง

อีกทั้งพรรคและกลุ่มใหม่ที่ตั้งมาก็เป็นเพียงแค่พรรคทางเลือกของคนกทม.เท่านั้นมิใช่พรรคของชาวชนบทรากหญ้า โมเดลพรรคแบบนี้ไม่ได้ต่างอะไรกับพรรคชาติ(ปลงไหล)ไทยพัฒนา,พรรคภูมิใจ(ห้อย)ไทย ซึ่งเป็นพรรคของคนไม่กี่จังหวัดในภาคกลาง,เหนือและอีสาน) ส่วนตัวผม ผมจะเลือกพรรคที่เสนอตัวเป็นพรรคของคนไทยทั้งประเทศจริงๆเท่านั้น

ดังนั้นขออภัยที่ผมไม่เห็นด้วยกับแผนแยกกันตีแบบที่มีการนำเสนอมา

spiralthai

จะดูสิว่ามีพลพรรคเก้าอี้ฯออนไลน์คนไหนคิดจะมาแจ้งแบนผมมั่ง พวกบทความวิพากษ์กะจั๊วกับศักดินาจนถึงตอนนี้่ผมยังไม่คิดจะขอปลดแบนเลย

ขนาดGroupชนชั้นเดียวกันที่ผมเคยตั้งไว้ก็ยังลบทั้งGroupซะโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าตามเงื่อนไขสงวนสิทธิ์การเปิดGroupที่ทางนั้นระบุเอาไว้แล้ว

ทั้งๆที่ควรทำแค่แบนบางBlogหรือบทความที่แยกโพสต์มาก็น่าจะพอแล้วแท้ๆ ถ้าคิดจะแบนMy-IDเพราะคำโปรยสีฟ้าส่วนล่างของหน้าWhat's upนี่มันก็มากไปละ

และที่ยกมาต่อไปนี่ก็คือคำโปรยสีฟ้าทั้งหมดที่ใส่เอาไว้ในหน้าMy-ID รู้สึกว่าCommentของStickrแต่ละBlogจะใส่ได้แค่100ข้อความ เอ้อ... ต้องแยกโพสต์หน่อยละนะ

spiralthai

ฉะนั้นห้ามถาม ห้ามสงสัย ซาบซึ้งได้อย่างเดียว ไม่งั้นจะโดนSocial Sanction โดนล่าแม่มดออนไลน์ และโดนฆ่าตัดตอนด้วยการฟาดเก้าอี้ฯออนไลน์ตายไม่รู้ตัวสถานเดียว โดยที่ปากยังพร่ำเพ้อรำพึงรำพันว่าให้พอเพียง,สงบสันติสามัคคี,สมานฉันท์ แต่ในใจมืดบอดด้วยตรรกะวิบัติอิงแอบเจ้ากล่าวหาฝ่ายตรงข้ามเป็นปีศาจล้มเจ้า มนุษย์พรรค์ยังงี้มันยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่าเนี่ย? แหม... ช่างตลกร้าย(Irony)จริงๆพับผ่าสิ

ขอบคุณที่ทำให้ผมยิ่งซาบซึ้งมากขึ้นกับGroupชนชั้นเดียวกันซึ่งผมได้ก่อตั้งขึ้นมาได้เพียงแค่3สัปดาห์เท่านั้นก็ถูกอำนาจมืดของพวกคลั่งเจ้าขวาจัด(Ultra Royalism)สั่งปิดนะครับ และผมจะไม่เสียใจเลยถ้าผมจะโดนแทรกแซงสื่อจากที่นี่ในส่วนตรงไหนอีก อะไรๆมันก็เกิดขึ้นได้ผมปลงแล้วละครับ อยากทำอะไรก็ทำไปเพราะผมยังมีพื้นที่เครือข่ายสังคมออนไลน์ของตัวเองสำรองเอาไว้หลายที่ โดยWeblogโอเคเนชั่(ว)นที่ผมเคยเปิดใช้งานมาแล้วเป็นตัวอย่างที่ดีได้เลยในเรื่องของการเข้ามาแทรกแซงสื่อ ปิดลบWeblogกันแบบมั่วสั่วที่หนึ่ง

spiralthai

ดูยอดสถิติUIPจำนวนผู้เข้าชมGroupใน@webdekdแล้วจะเห็นว่าพวกGroup Royalismที่เคยติดTop Tenถึง2-3groupในเดือนมิถุนายนพอเข้าเดือนใหม่นี้หลุดอันดับไปเลย

เท่านี้มันน่าจะชี้ให้เห็นชัดแล้วว่าความเป็นRoyalismนั้นก็เพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบเป็นครั้งคราวเท่านั้นเอง พอเวลาผ่านไปอารมณ์ก็กลับคืนสู่สามัญ

โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่ค่อยอยากอยู่ในห้วงอารมณ์ตามความกระแสชั่ววูบแบบนี้เลยจริงๆแต่ก็ต้องยอมรับว่าผมหรือแม้แต่ใครหน้าไหนก็เป็นไปกันทั้งนั้น เพราะเมื่อย้อนกลับมาคิดดูว่าเราเคยเป็นขาประจำเว็ปเก่าๆแก่ๆมาตั้งแต่เริ่มรู้จักเน็ต พอเวลาผ่านไปเราแทบจะไม่เคยไปเยี่ยมเว็ปนั้นเลย

นั้นไม่ใช่ว่าเราไม่ชอบสังคมในเว็ปนั้น จริงๆแล้วคือเราเบื่อหน่ายกับสภาพสังคมที่ไม่ได้ตอบสนองกับความคิดของเราที่เติบโตพอกพูนขึ้นมานั้นต่างหาก

spiralthai

Groupใน@webdekdที่เปิดๆมาส่วนใหญ่จะเป็นGroupแฟนคลับดาราเกาหลี ส่วนตัวผมแล้วไม่ค่อยสนใจGroupพวกแฟนคลับซะเท่่าไหร่เพราะเป็นความชอบตามกระแส

Groupใน@webdekdที่ผมเข้าร่วมนั้นเพราะมีอนาคตในแง่เนื้อหามากกว่า ส่วนที่ผมเข้าร่วมด้วยความชอบส่วนตัวมักจะเป็นGroup AnimeแนวLoliconมากกว่า

spiralthai

หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมผมใช้คำว่าอนุรักษ์นิยมกับช่องนี้

คำว่าอนุรักษ์นิยม(Conservative)นั้นเดิมก็เป็นศัพท์ที่หมายถึงแนวคิดนโยบายซึ่งไม่ได้จำกัดแค่การเมืองเท่านั้นแต่ยังคลุมไปถึงบริหารธุรกิจด้วย

ถ้าถามว่าทำไมช่องนี้ถึงต้องใช้นโยบายบริหารธุรกิจนำเสนอAnimeในแนวอนุรักษ์นิยมเช่นนี้อยู่เรื่อยไปละ คำตอบก็คือผลประโยชน์ทางธุรกิจการตลาดนี่ละ

เพราะจำนวนแฟนคลับการ์ตูนแนวอนุรักษ์นิยมเมื่อเทียบกับแฟนคลับการ์ตูนหัวก้าวหน้าเสรีนิยมแล้วน่าจะมากกว่า,ดึงกำลังซื้อจากผู้ปกครองได้สูงกว่า

และสินค้าในตลาดที่ขอลงโฆษณาก็มีจำนวนมากรายกว่าเห็นๆซึ่งทำให้มีรายได้จากการขายโฆษณาได้ดีกว่า มันก็คล้ายๆกับละครน้ำเน่าหลังข่าวของช่อง7สี

แม้ว่าผู้บริหารสถานีและบริษัทจะผลัดเปลี่ยนจากรุ่นพ่ออย่างนิรุตต์ ตันอนุชิตติกุลมาเป็นรุ่นลูกอย่างธนัท ตันอนุชิตติกุล แต่เจ้าตัวในตอนนี้ยังคงมีธุระต้องไปทำที่ต่างประเทศอยู่บ่อยๆจากการอ้างอิงข้อมูลใน http://www.my3space.com/TANAT ที่เขาเปิดไว้ ผมยังไม่เห็นว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงนโยบายในการทำธุรกิจเลย

ในขณะที่น้องชายอย่างธนพก็ยังเรียนต่อต่างประเทศอยู่

spiralthai

โดยการใส่ข้อความที่เคยส่งไปแล้วแบบยาวๆในหัวเรื่องเดียวกัน อัดลงไปในCommentรวดเดียวแบบนี้แหละ

BoomZLolicon

โอ้ว +1 ครับ ^^

spiralthai

เลือกตั้งสก.คราวนี้ถือว่าเป็นการวัดกำลังฐานเสียงกันระหว่างพรรคกะจั๊วกับพรรคสีขี้ว่าใครจะแน่กว่า แบบนี้พรรคเพื่อไทยเหมือนตาอยู่ชัดๆ

จะดูสิว่าพรรคสีขี้จะสามารถแชร์คะแนนจากกะจั๊วไปได้สักเท่าไหร่กัน แต่ผมเดาว่าพรรคสีขี้ไม่น่าจะสามารถแชร์จากกะจั๊วได้เลยพรรคกะจั๊วน่าจะชนะเลือกตั้งไปได้ในหลายๆที่นั่งตัวเก่าอยู่กันครบแถมมีจากทรท.เก่าเสริมอีก

ผมไม่คิดจะคาดหวังอะไรจากผลเลือกตั้งสก.อยู่แล้วเพราะสลิ่มกะจั๊วกับสีขี้ที่เสพสื่อเน่าและคลั่งเจ้ามีอยู่ในกทม.เยอะแต่คิดว่าสลิ่มน่าจะเยอะกว่า และผมเชื่อเอาไว้ในใจก่อนว่าจะแช่งกะจั๊วให้มันแพ้ตายสนิทเลยนี่มันไม่ง่าย เพราะสลิ่มความคิดแบบกะจั๊วมีอยู่ในสังคมไทยเยอะมากๆ

คราวนี้จะได้แยกกันชัดๆละนะว่ามีสลิ่ม(กะจั๊ว),สีขี้(กมม.)และแดง(พท.)อยู่ในอัตราส่วนของแต่ละเขตเลือกตั้งอยู่แค่ไหนกัน?

ถ้าสีขี้สามารถแชร์คะแนนเลือกตั้งสก.ใน40เขตคราวนี้ได้มากกว่า2-3พันคะแนนขึ้นไปละก็กะจั๊วอาจจะเสียเก้าอี้สก.ให้พท.ไปเลยก็ได้

spiralthai

วิทยาศาสตร์คือ"การใช้ข้อจำกัดของอายตนะทั้ง5เพื่อหาความจริง"(รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส) คำว่ารูปไม่ได้แปลว่า"ต้องมองเห็น"แต่แปลว่า"สามารถวัดได้"

จากWeblogของนิสิตม.มหิดลท่านหนึ่งในหัวข้อโต้แย้งกรณี@vajiramedhiให้สัมภาษณ์กับ@Woodytalkเมื่อช่วงตุลาปีที่แล้ว http://bit.ly/cPelH8

เพื่อจะชี้ให้เห็นว่าการให้สัมภาษณ์ของ@vajiramedhiเมื่อตอนนั้นมีการใช้ตรรกะวิบัติอ้างความไม่รู้แอบแฝงอยู่ด้วย นี่เป็นสิ่งนักปรัชญาพึงกระทำฤา?

ข้อเขียนของเจ้าของBlogเมื่อกี้ก็ยังมีคนดูถูกเขาว่าน่าจะเรียนให้จบแล้วเข้าไปทำงานให้นาซ่าเหมือนอ.อาจองเผื่อจะได้อธิบายอะไรเข้าใจง่าย

และยังไล่ให้ไปศึกษาศาสนาและทบทวนจะได้ไม่ต้องเขียนไทยคำอังกฤษคำ เหอะๆคิดว่าศัพท์อังกฤษหลายคำแปลเป็นไทยแล้วมันจะเข้าใจด้วยเหรอไงฟ่ะ?

คนพรรค์นั้นมันก็กากเดนการเสวนาดีๆนี่เอง เมื่อไม่สามารถโต้แย้งเนื้ิอหาหรือยกตรรกะมาแย้งหรือไม่พยายามทำความเข้าใจซักถามต่อเพื่อความเข้าใจได้ ก็จะใช้ตรรกะวิบัติโจมตีบุคคลหรือยกบารมีคนอื่นมาข่มผู้ร่วมเสวนา และอาจลามไปถึงการอ้างเจตนาและความเห็นใจอิงแอบให้ตัวเองดูดีขึ้นมาอีก

spiralthai

ผมชอบคำว่าลัทธิล่าอาณานิคมภายใน(Internal Colonalism)ที่เอามาใช้อธิบายการกระทำที่พวกคนในราชธานีไปตีเอาหัวเมืองต่างๆมาเป็นของตัวเอง แล้วสูบเอาทรัพยากรที่ผลิตได้จากหัวเมืองนั้นๆมาใช้ประโยชน์หากินในราชธานีตัวเองโดยไม่สนใจจะเอาผลประโยชน์ที่ตัวเองได้มาคืนกลับไปพัฒนาหัวเมือง

ซึ่งมันไม่ได้ต่างจากลัทธิล่าอาณานิคมของมหาอำนาจยุโรปในตอนนั้นเลย ศักดินาบ้านเราก็ใช้ลัทธิล่าอาณานิคมกะเขาด้วยเช่นกันแต่เป็นกับหัวเมืองชนบท

ผลประโยชน์หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาพัฒนาราชธานีให้เข้มแข็ง ไม่ได้คืนกลับไปพัฒนาให้หัวเมืองชนบทได้ลืมตาอ้าปากตามไปด้วย เพราะอะไรนะเหรอ??

ศักดินาจอมตระหนี่แห่งราชธานีมันกลัวว่าศักดินาหัวเมืองชนบทจะลุกขึ้นมาแข็งข้อขอปกครองตัวเองนะสิ ศักดินาไม่ว่าหัวเมืองไหนมันก็เลวหมดนั้นแหละ

และประวัติศาสตร์ก็สร้างภาพผู้ชนะอย่างศักดินาราชธานีว่าเป็นเทวดาเป็นผู้บริสุทธิ์ทำอะไรก็ได้รับการเคารพสรรเสริญ โดยไม่มีข้อสงสัย

ผมจึงเริ่มเข้าใจและเห็นใจในพฤติกรรมการแข็งข้อหรือเป็นกบฏต่อต้านศักดินาราชธานีของเหล่าศักดินาชนบทด้วยเหตุผลเรื่องลัทธิอาณานิคมภายในขึ้นมา

spiralthai

KingในConstitutional Monarchyมีหน้าที่3อย่าง

1.การลงพระปรมาภิไธยในการออกกฏหมาย

2.เป็นประธานในงานพิธีต่างๆที่เป็นหน้าเป็นตาของชาติ

3.เป็นศูนย์รวมของความเป็นชาติโดยการรักษาความเป็นกลางทางการเมืองอย่างเคร่งครัด

โดยข้อ1กับ2จะทำได้ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาเท่านั้น

ส่วนภารกิจอื่นที่เป็นการส่วนพระองค์และนอกเหนือจากที่สภาอนุมัติ จะต้องทำกันอย่างลับๆห้ามออกหน้าสื่อสาธารณะใดๆโดยเจตนาอย่างเด็ดขาด

หรือถ้าจะการแสดงความเห็นชี้แนะแนวทางสังคมเศรษฐกิจการเมืองนั้น จะต้องถือว่าเป็นความเห็นในฐานะเสรีชนคนธรรมดาโดยไม่อิงกับฐานันดรศักดิ์ใดๆ

King can do no wrong,because he can do nothing.นี่คือหลักการง่ายๆของราชาธิปไตยใต้รัฐธรรมนูญ(Constitutuion Monarchy)ที่ยุโรปเขาใช้กัน